โปรแกรมคํานวณ ทะเบียนรถ โหราเลขศาสตร์


จองทะเบียนรถ 899บาท
จองทะเบียนรถ

ลงขายทะเบียนรถ ฟรี

หน้าแรก > ลงขายทะเบียนรถ ฟรี

เมื่อลงขายทะเบียนรถได้แล้ว ต้องทำอะไรต่อบ้าง

ในการลงขายทะเบียนรถ ฟรี ไม่ว่าจะเป็นผ่านเว็บไซต์ หรือกลุ่มโซเชียลมีเดียต่างๆ การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้กระบวนการขายราบรื่น และเพิ่มโอกาสในการหาผู้ซื้อได้เร็วขึ้นครับ นี่คือสิ่งที่คุณควรเตรียมตัว:

1. เตรียมข้อมูลทะเบียนรถให้ครบถ้วนและถูกต้อง:
เลขทะเบียน: ระบุเลขทะเบียนและหมวดอักษรให้ชัดเจน (เช่น ฎษ 1234, กก 5678)
จังหวัด: ระบุจังหวัดที่ทะเบียนนั้นจดทะเบียน (เช่น กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, เชียงใหม่)

ประเภทป้าย:

  • ป้ายขาว-ดำ (ปกติ): ถ้าเป็นป้ายธรรมดาที่ไม่ได้มีลวดลาย
  • ป้ายกราฟิก (ประมูล): ถ้าเป็นป้ายที่มีลวดลายสวยงามจากการประมูล (มักจะมีราคาสูงกว่าป้ายปกติ)

รายละเอียดเพิ่มเติม (ถ้ามี):

  • เลขมงคล/เลขสวย: หากเลขทะเบียนของคุณมีความหมายมงคลตามความเชื่อ หรือเป็นเลขสวย เช่น เลขเรียง, เลขคู่, เลขตอง, เลขผลรวมดี
  • ที่มาของป้าย: เช่น เป็นป้ายส่วนตัวที่ไม่ได้ใช้, ป้ายประมูล
  • สภาพป้าย: (หากคุณมีป้ายจริงอยู่แล้ว) เช่น มีรอยขีดข่วนหรือไม่, ชำรุดตรงไหน
  • ราคาที่ต้องการขาย: ควรตั้งราคาให้เหมาะสมกับตลาด ลองเปรียบเทียบกับป้ายทะเบียนที่ใกล้เคียงกันที่เคยมีการซื้อขายกัน

2. เตรียมภาพถ่ายทะเบียนรถ (ถ้ามีป้ายจริง):

  • ถ่ายภาพให้ชัดเจน: ถ่ายภาพป้ายทะเบียนให้เห็นเลขและหมวดอักษรชัดเจน
  • แสงสว่างเพียงพอ: ถ่ายในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่มืดหรือจ้าจนเกินไป
  • หลายมุม (ถ้าจำเป็น): หากมีตำหนิ หรือเป็นป้ายกราฟิกที่ต้องการโชว์ลวดลาย อาจถ่ายหลายๆ มุม

3. เตรียมข้อมูลการติดต่อที่ผู้ซื้อสามารถติดต่อได้:

  • เบอร์โทรศัพท์: เบอร์ที่คุณสามารถรับสายและพูดคุยกับผู้สนใจได้
  • Line ID: เพื่อความสะดวกในการแชทและส่งข้อมูลเพิ่มเติม
  • ช่องทางอื่น ๆ (ถ้ามี): เช่น Facebook Messenger, อีเมล

4. เตรียมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนทะเบียน:

  • สถานที่: การโอนทะเบียนรถจะต้องดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบกในจังหวัดที่ทะเบียนนั้นจดทะเบียนไว้
  • เอกสารที่จำเป็น:
  • สำหรับผู้ขาย: สำเนาบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, หนังสือมอบอำนาจ (ถ้าไม่ไปเอง)
  • สำหรับผู้ซื้อ: สำเนาบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, หนังสือมอบอำนาจ (ถ้าไม่ไปเอง)
  • เอกสารจากกรมการขนส่งฯ: แบบฟอร์มคำขอโอน, หลักฐานการรับโอน (ใบเสร็จค่าป้าย)
  • การนัดหมาย: ควรนัดหมายกับผู้ซื้อให้ไปดำเนินการพร้อมกันที่กรมการขนส่งฯ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย
  • ค่าธรรมเนียม: จะมีค่าธรรมเนียมในการโอนทะเบียน ซึ่งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงกันได้ว่าจะให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบ (ส่วนใหญ่ผู้ซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบ)


5. เตรียมคำอธิบายประกอบการขายที่น่าสนใจ:

  • ข้อความสั้น กระชับ เข้าใจง่าย: บอกรายละเอียดที่สำคัญของป้ายทะเบียน
  • จุดเด่นของป้าย: เช่น เลขสวย, เลขมงคล, ความหมายดี, เป็นป้ายประมูล
  • เงื่อนไขการขาย: เช่น ราคาต่อรองได้หรือไม่, วิธีการชำระเงิน, วิธีการส่งมอบ

6. เตรียมความระมัดระวังเรื่องมิจฉาชีพ:

อย่าหลงเชื่อหากมีการขอข้อมูลส่วนตัวที่ไม่จำเป็น: เช่น เลขบัญชีธนาคารที่ไม่ใช่เพื่อการโอนเงินโดยตรง, รหัสผ่าน
นัดเจอที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น: เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าการโอนเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ระวังการโอนเงินมัดจำล่วงหน้าจำนวนมาก: ควรระมัดระวังเป็นพิเศษหากผู้ซื้อต้องการโอนเงินมัดจำก้อนใหญ่โดยที่ยังไม่เห็นป้ายหรือยังไม่ได้ทำสัญญา

การเตรียมตัวอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณลงขายทะเบียนรถฟรีได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยครับ

ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการลงประกาศขายทะเบียน:

  • เตรียมข้อมูลให้พร้อม: ถ่ายรูปทะเบียนให้ชัดเจน ระบุเลขทะเบียน หมวดอักษร จังหวัด และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (เช่น เป็นป้ายประมูล, ป้ายกราฟิก, เลขมงคล)
  • ตั้งราคาที่เหมาะสม: ลองเช็คราคาตลาดของทะเบียนที่ใกล้เคียงกับของคุณ เพื่อตั้งราคาที่ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป
  • รายละเอียดการติดต่อ: ระบุช่องทางการติดต่อให้ชัดเจน เช่น เบอร์โทรศัพท์, Line ID
  • ระวังมิจฉาชีพ: การซื้อขายทะเบียนรถเป็นการซื้อขายทรัพย์สินที่มีมูลค่า ควรนัดเจอและทำธุรกรรมที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อความปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย และตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วนก่อนการโอน
  • ขั้นตอนการโอนทะเบียน: โดยปกติแล้ว เมื่อตกลงซื้อขายกันได้ จะต้องไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ป้ายทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งผู้ขายและผู้ซื้อจะต้องไปพร้อมกัน หรือมีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน

ขายรถแต่อยากเก็บป้ายทะเบียน ต้องทำอย่างไร

เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่าถ้าอยากขายรถแต่ไม่ให้ป้ายทะเบียน เพื่อจะนำมาใช้กับรถคันใหม่สามารถทำได้หรือไม่ วันนี้ เกร็ดความรู้กับโตโยต้า ลีสซิ่ง ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการวิธีขายรถแต่เก็บป้ายทะเบียนไว้มาฝากกันว่าจะต้องทำอย่างไรกันบ้าง

การขายรถแต่เก็บป้ายทะเบียนไว้ โดยไม่ให้ป้ายทะเบียนกับผู้ซื้อรถนั้นสามารถทำได้ แต่หากจะเก็บไว้เพื่อใช้กับรถคันอื่นอาจจะต้องพิจารณาจากประเภทของป้ายทะเบียนนั้น ๆ ด้วย เพราะป้ายทะเบียนจะมีทั้งป้ายขาวดำทั่วไปและป้ายประมูล

กรณีป้ายทะเบียนขาวดำ หากขายรถที่ใช้ป้ายทะเบียนขาวดำ เมื่อถึงเวลาซื้อขาย แผ่นป้ายทะเบียนจะต้องติดตัวรถไปด้วย ไม่สามารถเก็บทะเบียนไปใช้กับรถคันใหม่ได้ แต่ถ้าต้องการขายรถโดยไม่ให้ทะเบียน เพื่อเก็บป้ายทะเบียนรถทั่วไปไว้ใช้กับรถคันใหม่ จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อเจ้าของรถทำการสลับป้ายทะเบียนก่อนการซื้อขาย เพราะป้ายทะเบียนรถยนต์ปกติจะไม่สามารถเก็บลอยได้เหมือนกับป้ายประมูลนั่นเอง

กรณีป้ายประมูล กรณีขายรถไปแล้ว แต่ต้องการเก็บป้ายทะเบียนประมูลไว้ใช้กับรถคันใหม่ หรือต้องการขายแยกระหว่างรถกับป้ายทะเบียนประมูล จะสามารถทำได้ทั้งคู่ เพียงแค่แจ้งขอเก็บทะเบียนประมูลเพื่อนำมาติดให้กับรถคันอื่นในครอบครอง ซึ่งมีศัพท์เรียกกันว่า “ขอสงวนป้ายประมูล” โดยเราจะต้องไปเดินเรื่องที่สำนักงานขนส่งที่ประมูลเลขทะเบียนรถนั้นไว้

ส่วนขั้นตอนในการเก็บทะเบียนรถไว้ สามารถดำเนินการได้ ดังนี้

1. ตรวจสอบประเภทป้ายทะเบียนที่จะเก็บไว้เสียก่อนว่าเป็นป้ายขาวดำ หรือป้ายประมูล
2. กรณีที่เป็นป้ายประมูล ให้ผู้ขายยื่นความจำนงค์ขอสงวนเลข ที่สำนักงานขนส่ง
3. กรณีเป็นป้ายขาวดำ ซึ่งต้องสลับป้าย ให้ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงเงื่อนไขการสลับป้ายทะเบียนขาวดำให้เรียบร้อยว่าผู้ขายสลับป้ายทะเบียนก่อนการซื้อขาย หรือผู้ขายแจ้งเงื่อนไขขอสลับป้ายทะเบียนคืนภายหลังภายในระยะเวลาที่กำหนด
4. หลังจากนั้นให้ผู้ขายจองเลขทะเบียนรถใหม่เพื่อใช้กับรถคันเก่า
5. เมื่อจองเลขทะเบียนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ติดต่อขอสลับทะเบียน ซึ่งคำขอสลับทะเบียน ให้ระบุว่า “ขอสลับเลขทะเบียนใหม่มาใช้กับคันเก่า” ส่วนเลขทะเบียนของรถคันเก่าจะนำไปใช้กับรถจดทะเบียนใหม่
6. เมื่อสลับทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะส่งคืนเอกสารให้ 2 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ไว้ใช้สำหรับรับป้ายทะเบียนใหม่มาไว้กับรถคันเก่า และอีกชุดจะเป็นเอกสารยืนยันแจ้งขอสลับเลขทะเบียนเก่าเพื่อนำไปใช้กับรถที่จดทะเบียนใหม่แล้ว
7. หลังจากได้รับรถคันใหม่ ให้นำเอกสารที่ได้จากเจ้าหน้าที่ไปยื่นประกอบการจดทะเบียน แทนการใช้ใบจองเลขทะเบียนรถคันใหม่
8. ส่วนรถคันเก่า เมื่อได้รับเลขทะเบียนแล้ว เจ้าของมีสิทธิ์ขายรถคันเก่าได้

แม้ว่าค่อนข้างมีขั้นตอนพอสมควร แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าป้ายทะเบียนที่มีคุณค่าต่อจิตใจของเจ้าของรถ ซึ่งอาจจะเป็นเลขมงคล เลขถูกโฉลก หรือเป็นเลขที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของรถนั่นเอง